CEMS คืออะไร? กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) บังคับใช้จริง โรงงานต้องปรับตัวอย่างไร?

ความหมายของ CEMS (Continuous Emission Monitoring Systems)

CEMS คืออะไร?

CEMS หรือ Continuous Emission Monitoring Systems คือ ระบบตรวจวัดมลพิษทางอากาศจากปล่องโรงงานอุตสาหกรรมแบบอัตโนมัติและต่อเนื่อง ทำหน้าที่วัดค่ามลพิษที่ปล่อยออกมา เช่น ฝุ่นละออง ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂), ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx),คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) และออกซิเจน (O₂) รวมถึงอัตราการไหลและอุณหภูมิของก๊าซ ระบบนี้ช่วยให้โรงงานควบคุมการปล่อยมลพิษได้อย่างใกล้ชิด ตรวจพบความผิดปกติได้ทันที และยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ภาครัฐใช้ในการกำกับดูแลคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง

ในประเทศไทย ปัญหามลพิษอากาศ เช่น ฝุ่น PM2.5 และก๊าซพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น CEMs จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศ โดยการแจ้งเตือนผู้ควบคุมโรงงานทันทีเมื่อการปล่อยมลพิษมีแนวโน้มเกินค่ามาตรฐาน ช่วยให้สามารถหยุดหรือแก้ไขกระบวนการที่ก่อมลพิษได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลาที่ชุมชนจะได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ

นอกจากนี้ข้อมูลที่ได้จากระบบ CEMS ยังถูกนำไปใช้ในการวางแผนปรับปรุงกระบวนการผลิตให้สะอาดขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในระยะยาว

CEMS กรมโรงงานอุตสาหกรรม

 

ประโยชน์ของ CEMS

  • 1
    ลดความเสี่ยงการฝ่าฝืนกฎหมายสิ่งแวดล้อม
  • 2
    ปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้และกระบวนการผลิต
  • 3
    ตรวจจับความผิดปกติของระบบได้ทันเวลา
  • 4
    เสริมสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นแก่สังคม

บทบาทของ กรมโรงงานอุตสาหกรรมกับการกำกับดูแล CEMS

ปัจจุบันมีกฎหมายที่กำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายประเภท ต้องติดตั้งระบบ CEMs เพื่อควบคุมมลพิษทางอากาศ โดยประกาศล่าสุดได้บังคับใช้ทั่วประเทศ ครอบคลุมโรงงานประเภทที่ปล่อยมลพิษสูง เช่น โรงไฟฟ้า โรงปูนซีเมนต์ โรงเหล็ก โรงงานกระดาษ โรงกลั่นน้ำมัน เตาเผาขยะ และหม้อน้ำขนาดใหญ่ เป็นต้น

ระบบ CEMs ที่ติดตั้งในโรงงาน จะต้องเชื่อมโยงข้อมูลแบบเรียลไทม์เข้าสู่ศูนย์ข้อมูลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ผ่านระบบออนไลน์กลางที่ชื่อว่า Pollution Online Monitoring System (POMS) ข้อมูลเหล่านี้ใช้สำหรับตรวจสอบ ติดตาม และวิเคราะห์ค่ามลพิษอย่างต่อเนื่อง หากมีการปล่อยเกินค่ามาตรฐาน เจ้าหน้าที่สามารถแจ้งเตือนโรงงานและดำเนินการแก้ไขได้ทันที

นอกจากนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ยังเปิดช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน POMS เพื่อสร้างความโปร่งใส และให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังมลพิษจากโรงงาน

มาตรฐานและข้อกำหนดการติดตั้ง CEMS ของ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.)

ระบบ CEMs ต้องวัดมลพิษตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ฝุ่นละออง ความทึบแสงของควัน ก๊าซ SO₂, NOx, CO, O₂ รวมถึงพารามิเตอร์อื่น ๆ ตามประเภทของโรงงาน
ข้อมูลที่รายงานต้องถูกปรับให้อยู่ใน สภาวะมาตรฐาน เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานที่กำหนดได้อย่างถูกต้อง ได้แก่

  • อุณหภูมิ 25°C
  • ความดัน 1 บรรยากาศ (760 mmHg)
  • สภาวะแห้ง (ไม่มีความชื้น)
  • และปริมาณออกซิเจนมาตรฐาน

เครื่องมือวัดค่าเหล่านี้ ต้องผ่านมาตรฐานสากล และมีการสอบเทียบอย่างสม่ำเสมอ ตำแหน่งติดตั้งต้องถูกต้องตามหลักวิศวกรรม เพื่อให้ได้ค่าที่แทนความจริงของการปล่อยมลพิษทั้งหมด โรงงานยังต้องยื่นขออนุญาตการเชื่อมต่อข้อมูล และจัดให้มีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญรับผิดชอบระบบ CEMs โดยเฉพาะ

การรายงานผลไปยังกรมโรงงานอุตสาหกรรม และการตรวจสอบจากระบบ CEMS

โรงงานอุตสาหกรรมที่ติดตั้งระบบ CEMS ต้องรายงานผลการตรวจวัดมลพิษไปยัง กรมโรงงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมอย่างน้อย 80% ของชั่วโมงการเดินเครื่องต่อวัน หากระบบขัดข้อง โรงงานต้องแจ้งกรมโรงงานฯ ทันที และหากขาดการรายงานเกิน 15 วัน ต้องทำการตรวจวัดด้วยวิธีทดแทนอย่างน้อยเดือนละครั้ง จนกว่าระบบจะกลับมาใช้งานได้ปกติ

กรมโรงงานอุตสาหกรรม มีระบบตรวจสอบค่าที่รายงาน หากพบค่าผิดปกติหรือสงสัยว่าเครื่องมือมีปัญหา จะเรียกโรงงานเข้าชี้แจงหรือทำการตรวจสอบเพิ่มเติม

CEMS ผลกระทบหากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกรมโรงงานอุตสาหกรรม

การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับ CEMS อาจนำไปสู่ผลกระทบหลายด้าน เช่น :

ผลกระทบหากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด กรมอุตสาหกกรม CEMS

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี CEMS

เทคโนโลยีการตรวจวัดมลพิษด้วยระบบ CEMS มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านสิ่งแวดล้อมและการควบคุมมลพิษที่เข้มงวดขึ้น แนวโน้มสำคัญในปัจจุบันและอนาคตของ CEMS มีดังนี้:

  • เครื่องมือวัดรุ่นใหม่ที่แม่นยำและตรวจจับมลพิษได้ละเอียดขึ้น
  • การเชื่อมต่อกับ IoT และระบบดิจิทัล เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา
  • การใช้ AI และ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและวางแผนบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์
  • ระบบตรวจวัดหลายมลพิษในเครื่องเดียว ลดต้นทุนและพื้นที่การติดตั้ง
  • การพัฒนาเครื่อง CEMS แบบพกพา สำหรับการตรวจสอบเฉพาะกิจ

หมายเหตุ: กลุ่มโรงงานเหล่านี้ถูกกำหนดไว้ในประกาศฉบับ พ.ศ. 2560–2561 ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม

ข้อแนะนำสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมในการติดตั้งระบบ CEMS

สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ในข่ายต้องติดตั้งระบบ CEMS หรือผู้ประกอบการที่ต้องการยกระดับการจัดการมลพิษทางอากาศของตนเอง ต่อไปนี้คือคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติที่ควรพิจารณา:

  • 1
    เตรียมความพร้อมล่วงหน้า วางแผนงบประมาณและกำหนดเวลาติดตั้งให้ทันตามกฎหมาย
  • 2
    ดูแลและบำรุงรักษาระบบ อย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบหัววัด อุปกรณ์กรอง และสอบเทียบเครื่องมือเป็นประจำ
  • 3
    ใช้ข้อมูลจาก CEMS ในการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ลดการใช้พลังงานและเชื้อเพลิง
  • 4
    ติดตามกฎหมายและมาตรฐานใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อปรับตัวให้ทันกับข้อกำหนดที่เปลี่ยนแปลง
  • 5
    สร้างวัฒนธรรมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในองค์กรและการสื่อสารต่อสาธารณะ

สรุป ระบบ CEMS และบทบาทของกรมโรงงานอุตสาหกรรม

ระบบ CEMS และการกำกับดูแลโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ถือเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมการปล่อยมลพิษทางอากาศจากโรงงานอุตสาหกรรม การปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้ไม่เพียงช่วยหลีกเลี่ยงบทลงโทษ แต่ยังสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรในฐานะผู้ประกอบการที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

สนใจเพิ่มความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมให้กับโรงงานและธุรกิจของคุณ?
เราให้บริการติดตั้งระบบ CEMS สำหรับตรวจวัดคุณภาพมลพิษทางอากาศ เพื่อช่วยให้โรงงานของคุณ ผ่านเกณฑ์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) อย่างถูกต้องและโปร่งใส

✅ ตัวแทนจำหน่ายระบบ CEMS แบรนด์ชั้นนำ Shimadzu
✅ ออกแบบและติดตั้งระบบตรวจวัด CEMs รองรับทุกโรงงานอุตสาหกรรม
✅ บริการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมรายงานคุณภาพน้ำย้อนหลัง

📞 ติดต่อทีมงานเพื่อวางระบบตรวจคุณภาพน้ำที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ!

ติดต่อฝ่ายขาย
Tel : 02-319-9994 ext.1
Line ID : @automationservice